air walker หรือ elliptical สำหรับการออกกำลังกาย แบบไหนที่ดีกว่า

การออกกำลังกายกลายเป็นหัวข้อหลักของใครหลายคนไม่ว่าจะเป็นหนุ่มสาววัยทำงาน หรือ คนหลังวัยเกษียณที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรง หรือ ใครจะออกกำลังกายเพื่อลดรูปร่างก็ทำได้เหมือนกัน ยิ่งเดี๋ยวนี้เครื่องออกกำลังกายทำออกมาหลายแบบมากขึ้น ราคาถูกลง จัดส่งถึงหน้าบ้านแบบไม่ต้องแบกให้เสียเวลาอีกต่างหาก ยิ่งทำให้การออกกำลังกายง่ายขึ้นไปอีก เครื่องออกกำลังกายที่มีคนเกิดความสงสัยว่าอย่างไหนดีกว่ากันก็คือ air walker หรือ elliptical สองอย่างนี้สายออกกำลังกาย เลือกแบบไหนดีกว่า

เครื่อง air walker หน้าตาเป็นอย่างไร

เรามาทำความรู้จักเครื่อง air walker กันก่อน เชื่อว่าเราคงเคยเห็นเครื่องเหล่านี้อยู่แล้วแต่ไม่รู้ว่ามันเรียกแบบนี้ เครื่อง air walker มันคือเครื่องออกกำลังกายที่จำลองการเดินขึ้นมา แต่เป็นการเดินบนอากาศ ตัวเครื่องจะมีแป้นลอยได้เพื่อให้รองรับน้ำหนัก จากนั้นจะมีก้านจับด้ามยาวขึ้นมาเพื่อให้เรายึดไว้เวลาเดินจะได้ไม่หล่น วิธีการเล่นก็คือเราให้ยืนบนแท่นทั้งสองข้าง ข้างละ 1 ขา จากนั้นก็จับตัวยึดเอาไว้แล้วออกกำลังกายด้วยการเดินได้เลย อาจจะเดินจากช้าก่อนเพื่อปรับสภาพร่างกายให้สอดคล้องกับเครื่อง จากนั้นพอคล่องแล้วจะขยับขึ้นให้เร็วก็ได้

เครื่อง elliptical หน้าตาเป็นอย่างไร

อีกเครื่องหนึ่งชื่อว่า เครื่อง elliptical เครื่องนี้เราอาจจะเคยได้ยินบ่อยในรายการขายสินค้าเกี่ยวกับเครื่องออกกำลังกายสายสุขภาพ ตัวนี้ให้นึกภาพเครื่องออกกำลังกายแบบถีบจักรยานไว้ก่อน เครื่องนี้จะมีหน้าตาคล้ายกัน แต่จะแตกต่างกันตรงนี้ด้ามจับจะเป็นแบบแนวดิ่งยาวขึ้นมาเลยเหมือนเครื่อง air walker แล้วก็มีเบาะนั่งด้วย(ในบางรุ่น) วิธีการเล่นมีสองแบบ หนึ่งให้เรานั่งบนเบาะ มือจับที่ด้ามจับ แล้วยกขาขยับเหมือนกับว่าเรากำลังจะขี่จักรยานอยู่ สองทำแบบเดิมแต่เป็นท่ายืน จะเหมือนกับเรายืนขี่จักรยานอยู่นั่นเอง

สายออกกำลังกายหนักหรือเบา

หากเราเลือกที่จะออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เรียกเหงื่อเบาๆ ในบ้าน หรืออาจจะให้ผู้สูงอายุเล่นเพื่อให้ได้ออกกำลังกาย เราขอแนะนำว่า air walker จะตอบโจทย์มากกว่า เป็นการเดินบนอากาศที่หากเดินไม่เร็วมากจะไม่ทำให้เข่า ข้อเข่า รับน้ำหนักมากเกินไป เดินแล้วไม่ปวดขาพูดง่ายๆ แต่ถ้าใครอยากได้เครื่องออกกำลังกายที่หนักขึ้นกว่าเดิม เล่นแล้วเหงื่อออกเผาผลาญไขมัน เบิร์นให้เกลี้ยง เราขอแนะนำว่า elliptical ตอบโจทย์มากกว่า ยิ่งถ้าเล่นแบบท่ายืนเล่นติดต่อกันสักครึ่งชั่วโมงต่อเซต บอกได้เลยว่าเหงื่อโทรมลงมาเลยแม้ว่าจะไม่เผาผลาญเท่ากับการวิ่ง แต่ก็ไม่ได้น้อยกว่ากันมากเท่าไร ใครอยากลดน้ำหนักเลือกอันนี้ดีกว่า

4 สูตรวิธีกินเวย์โปรตีน เพิ่มกล้ามเนื้อ

การสร้างกล้ามเนื้อให้ออกมาสวย ดี ดูลีน กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หนุ่มสาวสมัยนี้ให้ความสำคัญอย่างมาก หลายคนอยากจะมีหุ่นดี บอดี้ดี เลยฟิตหุ่นกันไม่ว่าจะทำเองที่บ้านหรือไปเล่นฟิตเนส นอกจากเล่นฟิตเนสแล้ว ยังมีการใช้อาหารเสริมเป็นตัวช่วยด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ การกินเวย์โปรตีน แต่การกินเวย์นั้นต้องกินอย่างถูกวิธีด้วย ไม่งั้นจากที่จะทำให้ดีอาจจะกลายเป็นแย่ได้ ว่าแต่การกินเวย์โปรตีน เค้าต้องกินกันอย่างไร

กินแค่ไหนถึงจะพอ

การกินเวย์โปรตีน ก็เหมือนกับการกินอาหารเสริมทุกชนิด กล่าวคือเราต้องกินอย่างพอดี อย่ากินน้อยเกินไป หรือมากเกินไป ในกรณีที่น้อยอาจจะไม่เกิดผลลัพธ์ตามต้องการ หรือ หากมากเกินไปอาจจะทำให้ร่างกายส่งผลเสียจนต้องตามแก้ไขอีก ด้านเวย์โปรตีนนั้นเรากินเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเพื่อสร้างโปรตีนในร่างกายเท่านั้น ไม่ได้กินเพื่อจะให้เวย์สร้างเติมโปรตีนให้กับร่างกาย(ไม่เหมือนกันนะ) ดังนั้นการกินเวย์ควรมีปริมาณที่พอเหมาะ แนะนำว่ารับประทาน 20-30 กรัมต่อวันก็เพียงพอแล้ว

ช่วงเวลาการกินเวย์

เวย์โปรตีนนั้น เป็นอาหารเสริมที่ช่วงเวลาในการรับประทานสำคัญมาก แม้ว่ากินเวย์จะทานตอนไหนก็ได้ แต่เราขอแนะนำว่าช่วงเวลาสำคัญที่เหมาะกับการกินเวย์โปรตีนก็คือ ช่วงเช้าตื่นนอนเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ร่างกายได้รับเวย์โปรตีนตอนเช้าจะช่วยให้การดูดซึมทำออกมาได้ดีมาก สองหากตอนเช้าไม่ได้กิน อีกหนึ่งช่วงเวลาเหมาะก็คือหลังจากออกกำลังกาย ร่างกายของเราใช้พลังงาน กล้ามเนื้อ ใช้แรงจากการเล่นกีฬาออกกำลังกายไปทำให้ร่างกายกำลังต้องการสารอาหารมาทดแทน การกินเวย์โปรตีนในช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยให้ร่างกายได้รับโปรตีนเข้าไปซ่อมบำรุงกล้ามเนื้อส่วนที่เสียหายไป

กินแล้วอย่าลืมออกกำลังกาย

อย่างหนึ่งที่เราต้องเข้าใจก่อนก็คือการกินเวย์โปรตีนไม่ได้ทำให้เกิดกล้ามเนื้อ เราต้องกินแล้วออกกำลังกายด้วยมันถึงจะทำให้เกิดกล้ามเนื้อตามต้องการ ไม่ใช่ว่ากินเวย์โปรตีนแล้วนอนอย่างเดียวมันจะเกิดกล้ามเนื้อได้นะ ดังนั้นกินเวย์โปรตีนแล้วอย่าลืมไปออกกำลังกายด้วย ยิ่งถ้าต้องการกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนต้องไปเล่นฟิตเนส เวทเทรนนิ่งด้วย จะช่วยให้เกิดกล้ามเนื้อตามต้องการ

กินโปรตีนอย่างอื่นด้วย

กินเวย์โปรตีนแล้วไม่กินโปรตีนอย่างอื่นได้ไหม บอกเลยว่าไม่ได้ การกินเวย์ไม่ได้หมายถึงกินเวย์โปรตีนอย่างเดียว เราต้องกินอาหารอื่นควบคู่กันไปด้วย อาหารหลัก 5 หมู่ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายเหมือนเดิม แต่อาจจะเน้นหนักเรื่องของโปรตีนมากสักหน่อย อย่าง อกไก่, ไข่ต้ม, นมสด ของพวกนี้ก็ต้องกินด้วยนะ อย่าลืมไม่งั้นกินเวย์ยังไงก็จะไม่ได้ผลตามต้องการ

คิดจะซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ต้องห้ามลืมเรื่องเหล่านี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันมีคนสนใจออกกำลังกายกันมากขึ้น นอกจากจะเลือกเข้าใช้บริการในสถานที่ออกกำลังกายอย่างยิมหรือฟิตเนสแล้ว การเลือกซื้อเครื่องออกกำลังกายมาใช้ในบ้านเองก็มีไม่น้อย ซึ่งเครื่องออกกำลังกายอย่างลู่วิ่งไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่คนมักซื้อมาใช้งาน แต่ก่อนที่เราจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาใช้งาน เราอย่าลืม! เรื่องเหล่านี้เป็นอันขาด

สิ่งสำคัญก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า

  1. ความน่าเชื่อถือ – ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการที่เราจะซื้ออะไร เราต้องมั่นใจในตัวสินค้า มันใจร้านขายรวมถึงการรับประกันที่ควรตรวจเช็ค สอบถามให้ดีเสียก่อน ทั้งนี้ควรซื้อยี่ห้อที่มีศูนย์อยู่ในประเทศไทย มีรับประกันอย่างน้อย 1 ปี หรือได้ 5 ปีก็จะดีมาก
  2. มอเตอร์ของลู่วิ่ง – มอเตอร์แต่ละเครื่องจะมีหน่วยวัดเป็นแรงม้า ซึ่งมอเตอร์บางยี่ห้อจะบอกเป็นแรงม้าต่อเนื่อง บางยี่ห้อบอกเป็น แรงม้าสูงสุด (อันนี้ต้องแยกดี ๆ) สำหรับขนาดที่แนะนำสำหรับวิ่งก็คือ 2.5 แรงม้า(แรงม้าต่อเนื่อง) ขึ้นไป ส่วนถ้าใครต้องการซื้อมาเพื่อเดินเป็นหลัก ควรเลือกใช้ 1.5 แรงม้า(แรงม้าต่อเนื่อง) ก็เพียงพอแล้ว
  3. สายพานลู่วิ่ง – สำหรับขนาดของสายพานที่อยากแนะนำสำหรับลู่วิ่งก็คือ ขนาดกว้าง 50 เซนติเมตร ยาว 150 เซนติเมตรขึ้นไป และควรเลือกแบบที่มีความหนามากกว่า 2 มิลลิเมตรก็จะดีมาก หากจะใช้เดินเป็นหลักคุณสามารถลดขนาดของสายพานลงมาหน่อยก็ได้ไม่ว่ากัน
  4. ความเร็วสูงสุดที่มีของเครื่อง – หากไม่ได้จะฝึกฝนเพื่อเป็นเป็นนักวิ่งก็ไม่ต้องสนใจข้อนี้มากก็ได้ เพราะส่วนใหญ่ลู่วิ่งไฟฟ้าจะเผื่อความเร็วมาให้ระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งควรเลือกที่สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของเรา ตามระยะทางที่เราอยากวิ่ง ฯลฯ
  5. น้ำหนักที่ตัวเครื่องสามารถรับได้ – ควรเลือกเครื่องที่สามารถรับน้ำหนักได้เกินกว่าน้ำหนักตัวเราสัก 5-10 กิโลกรัม ซึ่งจริงๆ แล้วในรายละเอียดของเครื่องจะมีบอกน้ำหนักที่รับได้อยู่ เราสามารถขอพนักงานที่ร้านขึ้นไปลองวิ่ง ลองเดินดูได้เลย เพราะตัวเราเท่านั้นที่จะสามารถรับรู้ถึงความแข็งแรงของเครื่องว่ามันจะสามารถรับน้ำหนักของเราได้สบาย ๆ หรือไม่ ทั้งนี้เมื่อวิ่งแล้วต้องไม่มีเสียงชิ้นส่วนไหนของลู่วิ่งที่เสียดสีกัน (นอกจากสายพาน)

นอกจากนี้ระบบความปลอดภัย และลูกเล่นอื่น ๆ ที่มีให้ก็สำคัญ เพราะหากเป็นมือใหม่อาจมีพลาดหกล้มเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นลู่วิ่งควรจะมีระบบหยุดทำงานอัตโนมัติด้วย ส่วนลูกเล่นอื่น ๆ ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล โดยที่เห็นทั่วไปส่วนใหญ่ก็ เช่น ปรับระดับความชันได้ วัดปริมาณแคลอรี่ วัดการเต้นของหัวใจ เชื่อมต่ออุปกรณ์ฟังเพลง