
ในบทความนี้เราจะกล่าวถึง วิธีการสร้าง 6 pack ที่ไม่ใช่ท่าออกกำลังกาย เพราะนอกเหนือไปจากท่าที่ถูกต้องแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ก็ล้วนมีส่วนช่วยในการสร้าง 6 pack เช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่ว่าอัดๆๆ แต่การออกกำลังกายเท่านั้น เช่นเดียวกับการทำอาหารจานหนึ่งให้ออกมาอร่อย ดูสวยงามล้วนเกิดจากองค์ประกอบหลายอย่างทั้งสิ้น
น้ำเปล่าเป็นสิ่งสำคัญ
ในเวลาเรานอนหลับ 7 – 8 ชั่วโมง ร่างกายของเราย่อมขาดน้ำ ถึงแม้จะใช้พลังไปกับการนอนน้อยแค่ไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นเมื่อตื่นขึ้นมายามเช้า เราควรปลุกร่างกายของเราให้ชุ่มชื่นด้วยน้ำเปล่าสะอาดสัก 1 แก้ว นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ ได้ออกผลการวิจัยว่าการดื่มน้ำสะอาดในตอนเช้าประมาณ 300 – 500 CC จะช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย มากขึ้น 24% เป็นเวลาต่อเนื่องนานถึง 90 นาทีหลังจากดื่มน้ำเข้าไป แต่ถ้าจำนวนไม่มากพอ ยกตัวอย่างเช่น แค่จิบเบาๆ น้ำนั้นก็จะไม่ส่งผลใดๆ แก่ร่างกายเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังทำให้เซลล์กล้ามเนื้อทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
กินแต่อาหารมีประโยชน์และอยู่ใกล้ตัว
บางครั้งถ้าเราปล่อยให้ตัวเองรู้สึกหิวจัดๆ อาจนำไปสู่การตบะแตก กินทุกอย่างที่ขวางหน้าจนเรียบ และ 6 pack ก็จะไม่มา แต่อย่างไรก็ตามยังมีวิธีป้องกันได้ง่ายๆ อยู่ค่ะ โดยให้คุณเตรียมของว่างที่ดีต่อ 6 pack ไว้ใกล้ตัว ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจพกแอปเปิ้ลเพื่อนำมาทำเป็นของว่างตอนเช้า ส่วนอาหารว่างตอนบ่ายอาจเป็นกล้วยหอม การเตรียมของว่างคุณภาพดีไว้ใกล้ตัว จะทำให้คุณได้รับพลังงานที่เพียงพอต่อการใช้งาน หรือนำไปไว้ใช้ในการออกกำลังกาย ไม่ก่อให้เกิดส่วนเกินอีกต่างหาก
อย่านอนดึก
มหาวิทยาลัยแห่งชิคาโก ได้ออกผลงานวิจัยชิ้นหนึ่ง โดยงานวิจัยนั้นกล่าวว่า ถ้าคุณนอนไม่หลับหรืออดนอนแค่ 3 คืน ก็จะทำให้เซลล์กล้ามเนื้อของคุณเกิดการไม่ยอมรับฮอร์โมนอินซูลิน ผลจากการต่อต้านนี้จะทำให้ไขมันไปสะสมบริเวณพุงของเราได้ พูดง่ายๆ ก็คือ ระบบฮอร์โมนซึ่งทำหน้าที่กำจัดไขมันในร่างกายถูกรบกวน ส่งผลให้ความสามารถในการเผาผลาญไขมันลดลง และเมื่อกำจัดไม่ทันก็ฝากเอาไขมันไว้ที่พุงก่อนนั่นเอง
ออกกำลังกายให้ถูกวิธี
โดยธรรมชาติ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายล้วนมีกล้ามเนื้อท้องอยู่ทุกคน แต่ไม่ค่อยเห็นเนื่องจากชั้นไขมันมาปกปิดมันจนมิดนั่นเอง เพราะฉะนั้นนอกจากการสร้างกล้ามเนื้อแล้ว การกำจัดไขมันออกก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน
วิธีที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำมีอยู่ 2 วิธี ได้แก่ การยกน้ำหนักและออกกำลังกายแบบ HITT เราคงเคยฟังจนคุ้นเคยแล้วว่าคุณควรออกกำลังกาย 1- 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที การออกกำลังกายแบบ HITT จะเน้นไปที่ความรวดเร็ว หนักพอต่อความต้องการ ยกตัวอย่างเช่น แทนที่คุณวิ่งเบาๆ 30 นาทีแค่เหงื่อพอซึมๆ ให้คุณเปลี่ยนเป็นวิ่งเร็วแบบวิ่งแข่งจนคุณเหนื่อยมากไม่ไหวแล้ว จึงหยุดเดินวิ่ง พอหายเหนื่อยก็ทำซ้ำแบบเดิม
การออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย มากกว่าการวิ่งแบบเหยาะๆ นานๆ ที่วิเศษคือมันมีผลต่อเนื่องถึง 39 ชั่วโมงหลังจากนั้นด้วย